330 ล้านยูโรไม่ใช่ปัญหา! กวิน กาญจนพาสน์ ยอมรับ ทุ่มซื้อเชนโรงแรม Vienna House เพราะเชื่อมั่นคนคนนี้

เป็นข่าวฮือฮาสุดๆ ของกลางปีที่แล้ว (31 พ.ค. 2560) เมื่อ “ยู ซิตี้” ประกาศปิดดีลซื้อกิจการเชนโรงแรมใหญ่ Vienna House ในยุโรป มูลค่ากว่า 330 ล้านยูโร หรือกว่า 12,800 ล้านบาทไทย ซึ่งนับเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่บนโต๊ะเจรจาธุรกิจของ กวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ ทายาทคนสำคัญของเจ้าสัวคีรี

ในวันที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี กำลังพร่างพรายไปด้วยเกล็ดหิมะขาวโพลน นักธุรกิจร่างสูงใหญ่คนนี้พาทีมแพรวหลบลมหนาวเข้าเช็กอินที่ Vienna House Andel’s Berlin โรงแรมขนาดใหญ่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ร่มเงาของบีทีเอส กรุ๊ป มาได้ครึ่งปี

ภายใต้อาคารที่มีรูปทรงสถาปัตยกรรมไม่สะดุดตาเลยเมื่อดูจากภายนอก แต่ภายในคือความโอ่โถง งดงาม และอบอุ่น เพราะมีคุณ “เควิน” นิกเนมที่กวินพึงใจให้มิตรเรียกขาน เป็นคนพาชมโรงแรม

และทำให้เราได้รู้ถึงมูลเหตุจูงใจที่ กวิน กาญจนพาสน์ ยอมทุ่มเงินกว่าหมื่นล้านปิดดีลข้ามชาติครั้งยิ่งใหญ่นี้ เพราะเขาเชื่อมั่นฝีมือคนคนหนึ่ง

กวิน กาญจนพาสน์
“เควิน” หน้าโรงแรม Vienna House Andel’s Berlin

“ต้องบอกก่อนว่าที่ผ่านมาเรามองหาโรงแรมในยุโรปมานาน ใช้เวลาศึกษาอยู่เกือบ 3 ปี เพราะเห็นโอกาสในการลงทุนจากกรณีเกิด BREXIT (ความเสี่ยงที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป) โดยที่แรกที่เราไปดูคือดิสนีย์แลนด์ ฝรั่งเศส พบว่าทุกอย่างแพงมาก แถมยังต้องใช้เงินตกแต่งอีกเยอะ จึงข้ามไป

“จากนั้นไม่นานผมได้รับดีลเวียนนา เฮ้าส์ ที่ทางธนาคารส่งมาให้ดู เออ…มันน่าสนใจดี ผมกับทีมเลยบินไปดู ได้พบเจ้าของธุรกิจที่มีอายุกว่า 80 ปีแล้ว ซึ่งลูกไม่ได้อยากทำธุรกิจโรงแรมต่อ เมื่อรวมกับที่เราเห็นว่ามีโอกาสที่จะหาเงินได้จากดีลนี้ ซึ่งมีตัวโรงแรมอยู่แล้ว 35 แห่ง เป็นแบรนด์ Vienna House (4 ดาว) 20 แห่ง และ Vienna House Easy (3 ดาว) อีก 15 แห่ง แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสำคัญเท่ากับว่าผมมีความมั่นใจในตัวซีอีโอของเวียนนา เฮ้าส์ คือ Rupert Simoner ที่เป็นนักบริหารโรงแรมมืออาชีพ

Rupert Simoner
Rupert Simoner CEO เครือ Vienna House มาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2014 อยู่ในวงการโรงแรมมาหลายสิบปี เคยเป็นประธานอาวุโสของ Kempinski Hotels

“ตอนที่เราได้รับการเสนอดีลนี้ นักลงทุนรายอื่นก็ได้รับการเสนอเหมือนกัน จึงต้องใช้เวลาเกือบปีกว่าจะปิดดีลนี้ได้ เฉพาะค่าใช้จ่ายในการทำดีลดิลิเจนต์ก็ 5 ล้านยูโรเข้าไปแล้ว เพราะเกี่ยวพันกับ 9 ประเทศที่เชนโรงแรมนี้เปิดอยู่ คือ ออสเตรีย เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย โรมาเนีย รัสเซีย และเบลารุส ไหนจะต้องแปลเอกสาร เรื่องของบัญชีต่างๆ ซึ่งซับซ้อนสุดๆ

“แต่ผมโชคดีที่จีบรูเพิร์ตติด (หัวเราะ) ทำให้เขายอมตามมาด้วย สารภาพเลยว่าในใจผมเกือบ 90% ที่ยอมจ่ายเงินขนาดนี้ก็ด้วย 2 องค์ประกอบหลักคือ ตัวแบรนด์เวียนนา เฮ้าส์ และคน พอรูเพิร์ตเซย์เยสปุ๊บ ผมตัดสินใจใช้เงิน 330 ล้านยูโรซื้อโรงแรมนี้เลย เพราะเห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจนี้ต่อไปได้อีกมหาศาล เพิ่มจากวันนี้ที่เวียนนา เฮ้าส์ มีอยู่แล้วใน 9 ประเทศ 35 แห่ง เป็น 80 – 90 แห่งในอนาคต

“แน่นอนว่าในอนาคตเราคงต้องดูเรื่องของผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย แต่เท่าที่ผ่านมาถือว่าเรามีโอกาสที่ดีมาก โดยเฉพาะการที่จีนเริ่มขยับการลงทุนจากเอเชีย ขยายมาลงทุนในยุโรปเพิ่มขึ้น ทำให้ขณะนี้ถือว่าเป็นตลาดของผู้ขาย ที่สามารถขายในราคาที่สูงขึ้นได้ หากเทียบกับปีที่แล้วตอนเราเข้ามาซื้อเวียนนา เฮ้าส์ ซึ่งขณะนั้นถือว่าเป็นตลาดของผู้ซื้อ ที่เราลงทุนไป 330 ล้านยูโร วันนี้ก็มีคนมาเสนอขอซื้อต่อในราคา 400 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นราว 20 – 30% ภายในเวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้น”

กวิน กาญจนพาสน์
“เควิน” ในล็อบบี้โรงแรม Vienna House Andel’s Berlin

เห็นโอกาสทำกำไรงามขนาดนี้ แต่คุณเควินประกาศชัดถ้อยชัดคำ

“ผมไม่ขาย เพราะต้องการสร้างแบรนด์เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ บอกเลยว่าเรายังทำอะไรๆ ได้อีกเยอะ โดยเฉพาะการรับบริหารโรงแรมที่ครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ จากการรวมแบรนด์เวียนนา เฮ้าส์ และ AHS (บริษัทแอ็บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด) เข้าด้วยกัน

“ผมไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up