เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อผิวสวยสดใสเปล่งประกาย ในช่วงหน้าฝน

2โดยขั้นแรกนั้นเป็นขั้นตอนการเตรียมผิวด้วย โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นและกระชับรูขุมขนไปในตัว ซึ่งควรเลือกตัวโลชั่นบางเบาอ่อนใสปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการแพ้ระคายเคือง โดยเทใส่สำลีก่อนซับเบาๆ บริเวณที่สีผิวไม่สม่ำเสมอบริเวณใบหน้า จะช่วยให้สารอาหารซึมสู่ผิวได้ลึกที่สุด
3จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการสเปรย์ด้วยน้ำแร่บริสุทธ์ ที่จะช่วยให้การแต่งหน้าดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนทาบางๆด้วย Serum เพื่อบำรุงให้ผิวดูสดใสและช่วยลดรอยจ้ำแดงไปพร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวพร้อมเคลือบผิวให้เงาใสเพื่อให้การแต่งหน้าในขั้นต่อไปดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น

ส่วนใครที่มีความกังวลเรื่องผิวใต้ตา ควรใช้ด้วยอายครีมที่มีส่วนผสมหลักที่ช่วยในเรื่องการยกกระชับไปจนถึงการเนรมิตรผิวใต้ตาให้เรียบเนียนและยังช่วยให้สามารถลงคอนซีลเลอร์ใต้ดวงตาได้อย่างง่ายดายขึ้น จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมผิวด้วยไพรเมอร์กัน ด้วยสีโทนชมพูที่สามารถกลมกลืนกับสีผิวเพื่อเตรียมพร้อมผิวก่อนลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไป

โดยรองพื้นที่จะใช้ควรเลือกแบบที่ให้เท็กซ์เจอร์ที่ดู Glow กระจ่างใส อิ่มน้ำให้กับใบหน้าของคุณ ไปจนถึงดูให้แน่ใจว่ามีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันเหงื่อเพื่อให้ผิวดูสว่างใสแบบ Luxury ไม่มันวาวจนเกินไป โดยเคล็ดลับก็คือการเลือกเบอร์ที่เหมาะกับสีผิว โดยมีเทคนิคคือการกดเบาๆ ด้วยแปรงที่หน้าแก้มเริ่มจากบริเวณที่จะ Cover โดยสามารถเลือกที่จะท็อปปิ้งให้ได้ลุคแบบบางเบาหรือจะลงซ้ำเพื่อให้ได้ลุคที่ดูเรียบเนียนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติก็ได้เช่นกัน

ซึ่งเทคนิคการแต่งหน้าให้มีมิติง่ายๆ นั้นก็คือการลงคอนทัวร์ด้วยรองพื้นเฉดเข้มกว่าผิวสักสองหรือสามเฉดไล้บริเวณกรอบใบหน้าเพื่อให้ได้รูปหน้าที่ดูสมบูรณ์แบบขึ้น ซึ่งในเมืองนอกนั้นเราสามารถที่จะลงรองพื้นตัวนี้เดี่ยวๆ ได้เลย แต่สำหรับอากาศร้อนๆ อย่างเมืองไทยอาจจะต้องลงแป้งเพื่อเซตติ้งก่อน โดยลงหลังจากเราแก้ไขผิวที่ไม่สม่ำเสมอบริเวณใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์ โดยเทคนิคคือการกดและเกลี่ยเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อปกปิดรอยแดงและรอยสิวก็ใช้วิธีเดียวกันนั่นเอง

จากนั้นก็มาถึงการลงแป้งเพื่อให้เมคอัพเซ็ทตัวโดยแต้มให้ทั่วบริเวณใต้ตาที่ลงคอนซีลเลอร์ไว้ และเซ็ทเบาๆ ที่ใต้จมูก และหน้าผาก ซึ่งเป็นส่วนที่ห้ามดูมันเงาเด็ดขาด

หลังจากนั้นจึงลงด้วยตัวไฮไลท์บริเวณสันจมูก และแตะเบาๆ บริเวณโหนกแก้ม วึ่งจะช่วยให้รูปหน้าดูได้สัดส่วนมากขึ้น จากนั้นจึงแต่งแต้มสีสันบนพวงแก้มดวงบลัชออนสีชมพูตามด้วยสีส้มเพื่อให้ได้ลุคที่ดูอ่อนวัยดูอมชมพูมีสุขภาพดีไปพร้อมกับเพิ่มมิติให้กับใบหน้าไปพร้อมกัน
4ขั้นต่อไปเราจะโฟกัสไปที่คิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยใช้สีโทนน้ำตาลเข้มซึ่งใกล้เคียงกับสีคิ้วจริงมากที่สุด โดยเติมเต็มร่องคิ้วบางๆไม่ให้ดูหนาจนเกินไป จากนั้นไล้หัวคิ้วเบาๆแล้วจัดทรงคิ้วให้ดูเป็นเป็นธรรมชาติเพื่อให้ลุคเก๋ไม่เข้มหรือหนาไปซึ่งเป็นเทรนด์การแต่งคิ้วในซีซั่นนี้
5และสำหรับดวงตานั้นเราหยิบยกความสวยงามของดอกไม้แรกแย้มผ่านสีชมพูพาสเทลโทนสีออกเนื้อ เป็นประกายเล็กน้อย โดยแต่งแต้มสีสันเปลือกตาโดย เกลี่ยไลท์เบาๆ ทั่วทั่งเปลือกตา ก่อนดัดขนตาและปัดด้วยมาสคาร่า ที่มีตัวปัดแกนเล็กซึ่งช่วยพยุงขนตาให้ยกตัวและงอนงามเนิ่นนานขึ้น
6

7

8ก่อนฟินิชชิ่งลุคด้วย Lipstick ที่ให้สีชมพูสดใส และความนุ่มชุ่มชื่น ดูหวานใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไลท์ on top ตรงกึ่งกลางของริมฝีปากจากนั้นค่อยแตะเบาๆ ทั่วทั้งรูปปาก เพียงเท่านี้ก็จะได้โททัลลุคที่น่ารัก อ่อนวัย เหมือนกับดอกไม้แรกแย้มที่จะเข้ามาแต่งแต้มช่วง Rainy Season แบบนี้ให้ดูมีสีสันและสดใสได้แบบไม่ต้องแคร์สภาพอากาศ

credit
http://www.brit.co/bronze-makeup-looks/
blog.skinowl.com
flyingsaucer.typepad.com
www.flickr.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up