ชีวิตตอนที่อยู่พัทยาเป็นอย่างไรบ้างคะ
เรียบง่ายมากเลยค่ะ ตื่นเช้ามาเล่นกับหมา อาบน้ำ กินข้าว เล่นกับเพื่อน แล้วแถวบ้านมีสนามบินพารามอเตอร์ของพี่ชายอยู่ใกล้ๆ ก็จะไปเล่นบ้างอีกอย่างที่ชอบทำคือทำอาหารแจกจ่ายเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน รู้สึกสนุกมากๆ ทุกวันนี้เวลากลับบ้านไปจะมีเป้าหมายอย่างเดียวเลยคือ ใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ และหมา แค่นั้น ไม่ได้มีความต้องการอยากไปไหนเลย
พลอยเป็นคนจัดเวลาสนุกมาก ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหนจะต้องมีเวลาให้ตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะไปนวด สปา เล่นกีฬา ไปเจอเพื่อนๆ เราเจียดเวลาชั่วโมงหนึ่งเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง คิดว่าคงน่าเบื่อหากต้องใช้ชีวิตเป็นเหมือนรูทีน พลอยอยากทำงานเหมือนได้ท่องเที่ยวหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาค่ะ
ตั้งแต่เข้าวงการมาทางบ้านว่าอย่างไรบ้างคะ
ก็เป็นห่วงค่ะ แต่คุณพ่อกับคุณแม่ให้โอกาสทางด้านการใช้ชีวิตมากๆ ท่านปล่อยให้เราเรียนรู้ชีวิต และเลือกทางที่เราอยากเดิน ถ้าไปรอดก็ยินดีด้วย แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จท่านก็พร้อมอยู่เคียงข้างเราอยู่แล้ว วงการนี้ทำให้พลอยโตขึ้นระดับหนึ่ง เพราะความรับผิดชอบเยอะขึ้น เด็กอายุ 17 ปีที่ต้องตื่นตี 4 ทุกวันเพื่อถ่ายละคร 3 เรื่อง พลอยว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักนะ แต่ในทางกลับกันก็สนุกดีค่ะ เพราะบางคนอาจไม่ได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ รู้สึกดีมากที่ผู้ใหญ่ให้เกียรติและเชื่อในตัวพลอย ให้ได้ลองแสดงฝีมือด้านการแสดง
ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ บางทีก็แอบเหงานะ เพื่อนส่วนมากอยู่พัทยาหมดเลย ดีว่ามีเพื่อนที่รู้จักจากสายงานเพิ่มขึ้นมา ที่สนิทกันก็มีพี่ซาบีน่า เพราะอยู่ The Face มาด้วยกัน แล้วก็ยังมาเล่นซี่รี่ย์ Gossip Girl ด้วยกันอีก ที่สำคัญคือเป็นเด็กพัทยาเหมือนกันด้วย ประหลาดมากที่ซอยบ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน อาทิตย์หนึ่งเจอกันเกือบทุกวันเลยยิ่งทำให้เราคุยกันเยอะขึ้น สนิทกันมากขึ้น คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นเด็กใหม่กันทั้งคู่ ก็ควรต้องสนับสนุนกันค่ะ
อยากให้เล่าถึงบรรยากาศในกองถ่าย Gossip Girl เป็นอย่างไรบ้างคะ
สนุกมากๆ ค่ะ เหมือนจับปูใส่กระด้งสุดๆ เพราะวัยเราใกล้กัน เวลาจะแกล้ง เล่นมุกอะไรก็เข้าใจกัน
แล้วในกองใครโดนแกล้งมากที่สุดคะ
พูดไปแล้วก็เหมือนเป็นข้ออ้าง แต่ด้วยความที่พลอยทำงานเยอะแล้วตัวละครที่เล่นคือบทแบลร์ ต้องใช้พลังงานเยอะมากจริงๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ ใช้ชีวิตซับซ้อน ต้องเอาชนะตลอดเวลา ปกติเวลาถ่ายละครจะมีการปาร์ตี้ไม่เกิน 3 ครั้ง แต่เรื่องนี้มีปาร์ตี้ทุกอาทิตย์ เคยถ่ายฉากปาร์ตี้ตั้งแต่ 10 โมงเช้ายัน 6 โมงเช้าของอีกวัน โหลดมากค่ะ ดังนั้นถ้าซีนไหนไม่มีคิวเล่นก็จะแอบไปหลับ พลอยหลับได้ทุกที่ แล้วก็จะโดนทุกคนถ่ายรูปไปลงในกรุ๊ปไลน์เยอะมาก เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่หลับแล้ว เพราะไม่อยากโดนแกล้ง แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้สักที ถ้าไม่มีโซฟาให้นอนก็ไปยืมเสื่อกองถ่ายมาปูนอน เป็นเด็กนอนง่ายมาก (หัวเราะ)
เห็นว่าเรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนฮือฮามาก ยากไหม
ยากตรงสภาพจิตใจที่ต้องดูแลให้สบายมากที่สุด เพราะว่าค่อนข้างดาร์คแล้วต้องให้พลังเยอะ ถ้าดูแลจิตใจไม่ดีก็จะไม่มีแรงแสดง พลอยว่าการเล่นละครจริงๆ แล้วมันเหนื่อยมาจากข้างในมากกว่า อย่างฉากเลิฟซีนหนูมองว่าเป็นความท้าทายของเด็กอายุ 17 ที่ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ว่าเราคือนักนักแสดง ก่อนที่จะมาเล่นเรื่องนี้ ครั้งแรกที่ทีมงานส่งบทมาให้ พออ่านถึงฉากเลิฟซีนแล้วร้องไห้เลย คิดในใจว่าไม่เล่นแน่นอน เพราะรู้สึกว่าหนักมาก ได้คุณแม่เดินมาให้กำลังใจ บอกว่านั่นคือตัวละคร ไม่ใช่ลูกแม่ ลูกแม่เก่งมาก ต้องทำได้ คำพูดคุณแม่เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เราเลยค่ะ ในเมื่อแม่เชื่อแล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ เลยอยากลองฉีกกรอบการแสดงของตัวเองดูค่ะ
เคยได้ดูเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหมคะ
เคยได้ยินค่ะ แต่มาเริ่มดูตอนที่กันตนาจะนำเข้ามาทำใหม่ เราก็ต้องดูเพื่อนำมาปรับให้เข้ากับตัวเอง ต้องหาความเป็นแบร์แล้วถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดยอมรับว่าหนักแต่สนุก เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจมนุษย์มากขึ้น เพราะก่อนที่จะเข้าวงการเรายังเด็กกว่านี้เยอะมาก แต่พอได้เริ่มเล่นละครเหมือนเราได้อ่านทัศนะคติคนผ่านตัวละครหลายๆ ตัว ทำให้เวลาเจอใครก็จะเริ่มเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น หรือแสดงออกแบบนี้
เผื่อใจกับกระแสตอบรับมากน้อยขนาดไหน
เปิดใจรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ คำชมเป็นกำลังใจ แต่การติก็เป็นแรงผลักดันให้เราได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น จริงๆ ดีเสียอีก เราจะได้ไม่ต้องเดาไปเองว่ามีอะไรที่เรายังไม่ได้พัฒนา เป็นคนแข่งกับตัวเองมากกว่า
ตอนนี้ละครที่เล่นล้วนมีความยากง่ายแตกต่างกัน อย่างนางอายก็จะเด็กลงมานิดนึง เหนื่อยน้อยกว่า Gossip Girl เพราะการเอาชนะไม่เท่ากับไฮสคูลอเมริกา ส่วนทายาทอสูรจะเหนื่อยตรงการอิมโพรไวส์ เนื่องจากเราต้องเห็นภาพปีศาจต่างๆ นานา แล้วพลอยเป็นคนกลัวความมืดด้วย บางทีก็เหนื่อยจนเกือบอาเจียรเลยค่ะ(หัวเราะ)
ชีวิตตอนนี้ถ่ายละครอย่างเดียวเลยหรือเปล่าคะ
เดือนนี้มีถ่ายละครทุกวันเลยค่ะ ตอนแรกรู้สึกว่าเหนื่อยจังเลย เรายังเป็นเด็กทำไมต้องมารับผิดชอบอะไรเยอะขนาดนี้ แต่ถ้าคิดกลับกันสิ่งเหล่านี้คือ โอกาสที่เขามอบให้ เราก็ควรทำออกมาให้ดีที่สุด พอคิดบวกก็จะสนุกไปเองค่ะ
การใช้ชีวิตไม่มีหลักสูตรว่าวัยรุ่นต้องทำแบบนั้นแบบนี้ อย่างพลอยตอนนี้ก็จบม.6แล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย เพราะรู้สึกว่ายังไม่มีคณะที่เราชอบและอยากเรียนจริงๆ ปีนี้เป็นเหมือนปีทำงานและเดินทาง ทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย
“ฝากติดตามผลงาน และเป็นกำลังใจให้พลอยด้วยนะคะ”
เรื่อง : apinya
ภาพ : วรสันต์