My (Family) Man Can Do..นี่แหละ ผู้ชายของฉัน!

ใครว่าผู้ชายไม่แสดงออก เห็นเงียบๆ แบบนี้ แต่รักครอบครัวมากนะ ไม่เชื่อถาม 3 หนุ่มคนดังนี่สิ ที่บทพ่อคุณจะลุกขึ้นมาโชว์แมนเอาใจแฟนก็แรงเกินร้อย ชนิดเอาใจไปเลย เรื่องนี้คอนเฟิร์มโดยคนหลังบ้าน

Untitled3ทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ & ชลธิชา ล้ำเลิศยุทธศิลป์

กลายเป็นวีรกรรมลือลั่นกันทั้งวงการวิ่งมาราธอน เมื่อนง-ทนงศักดิ์ โชว์แมน ด้วยการพาติ๊ก-ชลธิชา แฟนสาวที่ประสบอุบัติเหตุขาหัก นั่งรถเข็นแล้วเข็นวิ่งมาราธอนถึง 3 รายการ แถมยังต้องฝ่าฟันทั้งสะพานและเส้นทางคดเคี้ยวจนได้ใจคนทั้งสนาม งานนี้คนที่ยิ้มแก้มปริคือติ๊ก ที่เปิดเผยว่า “พี่นงคงเห็นใจว่าปกติเราแอ๊คทีฟ แต่พอขาหักแล้วแทบไม่ได้ไปไหน ต้องอยู่บ้านคนเดียว หงอยมาก พอดีมีงานวิ่งมาราธอนที่มหาวิทยาลัยเก่าของติ๊กจัดขึ้น เขาจึงชวนติ๊กไปด้วย ตอนวิ่งจริงๆ สนุกมาก เพราะมีคนเชียร์ไปตลอดทาง ใครเห็นก็บอกพี่นงสุดยอด! ใจมาก แมนว่ะ (หัวเราะ)

“เขาเพิ่งมาบอกทีหลังว่า ที่ชวนไปวิ่งนั้นเพราะเขามองว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นในชีวิต ก็ต้องหามุมดีๆ ให้เจอ เขาจึงอยากทำให้การวิ่งครั้งนี้เป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในตอนที่ติ๊กขาหัก”

Untitled4 Untitled5สงกรานต์-คัทลียา กระจ่างเนตร

เห็นออกงานถี่ยิบแบบนี้ ใครจะรู้ว่าความจริงแล้ว บีบี๋-สงกรานต์ สามีนักธุรกิจของแหม่ม-คัทลียา ที่ปกติอยู่ท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ กลับหลงใหลชีวิตตะลุยทุ่ง มุ่งสู่การเป็นฟาร์มเมอร์สุดพลัง ถึงขั้นปลุกปั้นที่ดินของแหม่มที่เชียงรายให้กลายเป็น “สิรินทร์ฟาร์ม” อัดแน่นไปด้วยสัตว์นานาชนิด ทั้งวัว หมู เป็ด ไก่ นกยูง วิ่งกันอลหม่าน ไม่นับเทือกสวนไร่นา ที่มีทั้งข้าวและผักผลไม้นับไม่ถ้วน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ลูกๆ ทั้ง 3 คน แมค-คิน-แนสซี่ ได้กินอาหารที่ปลอดภัยแบบออร์แกนิคล้วน บีบี๋จึงลงทุนศึกษาเอง ทำเอง เลี้ยงเอง

แหม่มเล่าว่า “บีบี๋ตั้งใจทำฟาร์มนี้ให้เป็นที่แฮงค์เอาท์ของครอบครัว เพราะเวลามาที่นี่ ทุกคนมีความสุขมาก บีบี๋จะตื่นตี 5 ไปดูสัตว์คลุกอีเอ็มอยู่ค่อนวัน ส่วนเด็กๆ จะไปขลุกที่เล้าหมู ดูเป็ดดูวัว แดดร่มลมตกก็ไปเล่นน้ำในลำธาร บางวันบีบี๋ก็พาลูกไปเด็ดมะละกอมาทำส้มตำกินกัน เป็นครอบครัวสโลไลฟ์ของจริง”

Untitled1โอภาส เฉิดพันธุ์-ประพิมพรรณ เลิศสิริสิน

นี่คือโฉมหน้าของคู่รักนักชิมที่เปลี่ยนเส้นทางเป็นคู่รักนักกีฬาได้ด้วยเหตุการณ์เดียว คือเมื่อคุณสามี โอ-โอภาส เจ้าของบริษัท M Vision ไม่สามารถทำประกันชีวิตได้ เนื่องจากน้ำหนักที่มากถึง 140 กิโลกรัมนั้นเกินเกณฑ์ ทำเอากลัวว่าจะเป็นภาระของภรรยาและลูก โอจึงขอปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ด้วยการปั่นจักรยาน แต่เพราะกลัวจะล่มกลางทาง เลยลงทุนซื้อจักรยานคันแรกราคา 2 แสน เพื่อบังคับตัวเองให้ใช้ ประมาณว่าถ้าเสียดายเงินก็ต้องปั่น ปรากฏว่าเวิร์คมาก แถมยังน่ารักตรงที่ชวนโอ๋-ประพิมภรรณ ภรรยาไปปั่นด้วย กลายเป็นคู่รักสปอร์ตี้ ที่ไปไหนไปกันตลอด ผลลัพธ์น่ะหรือ คุณโอ๋ยิ้มปลื้มบอกว่า… “หลังจากปั่นจักรยานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อยู่ 6 เดือน น้ำหนักเขาก็ลดเหลือ 110 กิโลกรัม และหลังจากนั้นไม่กี่เดือน เขาก็ลดเหลือ 100 กิโลกรัม วันนั้นเขาดีใจมาก พุ่งไปทำประกันเลย (ยิ้ม)”

สิ่งที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่น้ำหนัก แต่จากคนไม่เคยออกกำลังกาย กลับข้ามขั้นไปสู่นักไตรกีฬา คือปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่งอีก 10 กม. และว่ายน้ำอีก 750 เมตร! ที่ยังไม่เปลี่ยนคือ ควงกันไปเป็นแพ็คคู่เช่นเดิม ทุ่มขนาดนี้ รักตายเลย

เรื่อง : โทมาลิน/ปาจรีย์

ภาพ : นิตยสารแพรว

Praew Recommend

keyboard_arrow_up