ขนมถุง ขนมไทย ที่สุดของความพัง แต่ กินยังไงไม่ให้อ้วน…สาวติดขนมจงฟัง!

กินยังไงไม่ให้อ้วน ทำได้จริง แล้วเวิร์คมากบอกเลย!

กินยังไงไม่ให้อ้วน อะพินเชื่อว่าเป็นคำถามยอดฮิตของสาวๆ เลยล่ะ เพราะห้ามกันไม่ได้จริงจริ๊งง! กับสารพัดขนม ซึ่งตามหลักคือควรกินเบาๆ เป็นมื้อว่างระหว่างวัน แต่อะพินเชื่อว่าคุณเธอหลายๆ คนเล่นกินจริงจังกันเป็นมื้อหลักเลยใช่มั้ย แหม…สมัยนี้อยากกินอะไรก็แค่แวะเข้าร้านสะดวกซื้อ แป๊ปเดียวออกมาพร้อมขนมฉีกกินกันมันเลยใช่ไหมล่ะพวกเธอ

แล้วขนมพวกนี้มีทั้งความมันและความเค็ม ยิ่งทำให้อยากน้ำอัดลม เพระดื่มแล้วรู้สึกโล่งคอกว่าดื่มน้ำเปล่า พีคมั้ยล่ะ แต่หลังจากจัดเต็มแล้วก็มานั่งกลุ้มใจกับเจ้าก้อนไขมันส่วนเกินตามร่างกาย เอาเป็นว่าถ้าอยากกินก็ได้นะ แต่ต้องกินอย่างฉลาด และมีเทคนิคนิดหน่อย รับรองเจ้าไขมันไม่มีวันมาสิงร่างแน่นอน

ท่องไว้! อย่ากินเหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต แบ่งไว้บ้างก็ได้นะเธอ
จริงๆ ไม่ได้ห้ามนะ เพราะขนมหรืออาหารว่างระหว่างมื้อสามารถกินได้วันละ 2 ครั้ง คือมื้อว่างช่วงเช้า และบ่าย แต่ต้องจํากัดปริมาณไม่ให้มากจนเกินไป วิธีที่อะพินอยากแนะนำทุกครั้งก่อนจะกินอะไรคือต้องอ่านฉลาก แล้วจะรู้ว่าหลังซองขนม (ถุงใหญ่) ได้ระบุไว้ว่า 1 หน่วยบริโภคเท่ากับ 1/3 ถุง
 นั่นหมายความว่าต้องกิน 3 ครั้ง มาดูพลังงานโดยรวม 1 หน่วยบริโภคประมาณ 150 cal มีไขมันประมาณ 20% แต่ถ้าทั้งถุงจะได้พลังงาน 450 cal นั่นเท่ากับว่าถ้ากินคนเดียวเพลินๆ เผลอแป๊ปเดียวหมดถุงแล้ว คุณจะได้ไขมันเป็นของฝากถึง 60% เอิ่มคือ พีคมาก!!

อาหารว่างที่ดีควรให้พลังงานไม่เกิน 100 cal นะ
อย่างที่บอกไปว่าขนมส่วนใหญ่ 1 หน่วยบริโภคจะเท่ากับ 120-150 cal อาจเกินไปเล็กน้อยก็ยังพอรับได้ วิธีฉลาดคือให้พยายามเลือกขนมที่ไม่ใช่มีแต่แป้ง ไขมัน และเครื่องปรุงรส ลองเปลี่ยนมากินขนม หรือของว่างที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ถั่ว หรือธัญพืชแห้งบ้าง อย่างน้อยก็ยังได้ประโยชน์จากวิตามินบี 1 กับโปรตีน ไม่ใช่มีแต่คาร์โบไฮเดรตกับไขมัน

หันมากินขนมไทย ถ้ารู้จักเลือกประเภท กินดีมีประโยชน์ ไม่อ้วน
หลายคนบอกว่าขนมไทยกินแล้วอ้วน แต่ก็ยังดีกว่ากินขนมถุงที่เต็มไปด้วยแป้ง และนํ้ามัน ขนมว่างแบบไทยๆ เช่น ข้าวต้มมัด ถั่วแปบ อาจจะให้พลังงานสูงปี๊ด  เพราะข้าวต้มมัดทั้งหวานทั้งมัน และเป็นคาร์โบไฮเดรต แต่ก็มีประโยชน์เพราะมีกล้วย เผือก ถั่วดํา สําหรับถั่วแปบก็จะมีถั่วกับแป้ง แต่ถ้าใส่น้ำตาลน้อยๆ ก็จะไม่ทำร้ายตัวเองมาก หรือถ้าเป็นขนมถ้วยๆ เช่น ถั่วแดงต้มเขียวต้มนํ้าตาล ก็ยังได้ประโยชน์ แต่ระวังอย่าให้หวาน แนะนําให้กิน 1 ครั้งต่อวันก็พอ

 

ถ้าอดใจไม่ไหว ควรวางแผนก่อนกิน

อ่ะ…ยอมให้ปล่อยผีสักวัน แต่ต้องมีเทคนิคกันหน่อยคือ สมมติมื้อนี้จะกินสัก 500 cal ก็แบ่ง cal ไปเลยครึ่งๆ ระหว่างของคาวกับของหวาน เช่น อยากกินกล้วยบวดชีม๊าก ก็กินเลยจ้า   ให้พลังงานประมาณ 200-250 cal ปาเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว ได้ไขมันจากกะทิและน้ำตาล แล้วไปลดข้าวลงสัก 1 ทัพพี (80 cal/1ทัพพี) มีเทคนิคเวลากินคืองดน้ำกะทิ เพราะมีกะทิอยู่ในขนมแล้ว และเพิ่มปริมาณผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น เพราะใยอาหารจะไปช่วยดักจับไขมัน อีกวิธีคือการออกกําลังกาย ใครที่ออกกําลังกายเป็นประจําอยู่แล้วก็ต้องเพิ่มอีกนิดหน่อย ใช้วิธีเดินเร็ว 1⁄2 ชั่วโมง เผาผลาญไปแค่ 100 cal เท่ากับขนมเพียงครึ่งถ้วยเท่านั้น ดังนั้นคุณต้องเดินถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จึงจะใช้พลังงานจากการกินขนม 1 ถ้วยหมด

ตอนกินมันก็ฟินอยู่หรอก แต่พอต้องเอาออกนี่ซิแสนทรมาน ดังนั้นก่อนจะกินอะไรให้นึกถึงตอนเบิร์นเข้าไว้นะเธอ!    

เรื่อง : apin_praewnista ภาพ : www.pinterest.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล