เจาะลึก DermoLift ตัวช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง ใบหน้าเรียว ได้วีเชฟ กระแสดีไม่มีตก!

ใบหน้าเรียว ได้วีเชฟด้วย DermoLift กระแสดีไม่มีตก!

ใบหน้าเรียว ปรับรูปหน้า ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่ง นายแพทย์สถาพร จินารัตน์  ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปรับรูปหน้าไว้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งพาไปรู้จักกับทางเลือกใหม่สำหรับการยกกระชับใบหน้า

DermoLift

Untitled-2เป็นการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า Non-Surgical Face Lift ด้วยวิธีการฉีดยากลุ่ม Botulinum Toxin Type A (Type อื่นเช่น Type B อาจทำได้เหมือนกัน) เข้าไปในชั้นผิวหนังแท้

ต่างจากการฉีดโบท๊อกซ์อย่างไร

  • ส่วนผสมจะแตกต่างจาก การฉีดแบบโบท๊อกซ์ เพื่อให้เกิดการกระจายของยาไปสู่เซลล์ของหนังแท้ ส่วนผสมของ DermoLift ขึ้นอยู่กับสูตรการผสมของแต่ละสถาบัน แต่จะอยู่ที่ประมาณ 100 ยูนิตต่อน้ำเกลือ 2.5 ซีซี
  • โบท็อกซ์ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งการหลั่งสารนำประสาทที่เรียกว่าอะเซ็ตไตล์โคลีนที่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว เมื่อไม่มีสารตัวนี้กล้ามเนื้อจึงคลายตัว ดังนั้นถ้าฉีดรอยตีนกา ตีนกาก็ลดลง ฉีดรอยย่นที่หน้าผาก รอยย่นก็จางลง หากฉีดกราม หรือใบหน้าก็จะเรียวลง แต่ก็มีสิทธิ์เกิดปัญหาเรื่องหนังตาตก คิ้วตก คิ้วโก่ง ปากเบี้ยวได้
  • Dermolift เป็นการฉีดเข้าผิวหนังชั้นหนังแท้มีกลไกออกฤทธิ์ อยู่ 2 ระยะ หลังจากฉีดประมาณ 10-20 นาที ผิวหนังจะหดตัวทันที ทำให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดเต่งตึงขึ้น ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะบวมขึ้นเล็กน้อย ต่อจากนั้นประมาณสองสัปดาห์จะเริ่ม เข้าสู่ระยะที่สอง หรือ Delayed Effect เป็นระยะที่ยาไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำให้ผิวหนังแข็งแรง อีลาสติน (elastin)ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและแมตตริก(matrix) ทำให้ผิวหนังมีน้ำมีนวล. หนาตัวขึ้น ระยะนี้จะอยู่ได้ถึง 4 เดือน หลังจากนี้ถ้าฉีดอีกครั้งผิวจะหนาขึ้นอีกทำให้ช่วยชะลอการฉีดครั้งต่อไปได้อีก6-12เดือน

ทำให้ใบหน้าดูเป็นหนุ่มสาวอ และดูเด็กขึ้นกว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน เลยทีเดียว

Untitled-3ข้อมูล : นายแพทย์สถาพร จินารัตน์ ประธานผู้บริหารคลินิกความงาม เรโนเวีย คลินิก (Renovia Clinic)

ภาพ : www.pinterest.com

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up