สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวแพรวดอทคอม เข้าสู่สิ้นปีกันแล้ว นั่งนับวันรออีกไม่กี่วันก็จะได้หยุดยาวไปพักผ่อนสมกับที่รอคอยกันมาทั้งปีแล้ว ว่าแต่มีแพลนกันหรือยังคะว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกัน ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นขึ้นไปแอ่วเหนือกันแน่ๆ เลย เพราะอากาศที่เริ่มเย็นสบาย แต่จะพากันไปเที่ยวแออัดแย่งของกันกินกันใช้ทำไมล่ะคะ ในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าคนต้องเยอะมหาศาล สู้หลบไปพักในที่สถานที่เงียบสงบแต่ครบทุกความต้องการดีกว่า
นี่เลยค่ะ แพรวดอทคอม ขอนำท่านทั้งหลายเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ท้องฟ้าโดยรวมโอเค ไม่มีฝนตกหนัก เมฆบางตา อากาศไม่ร้อนมาก ลมเย็นสบาย แดดกำลังดี บอกเลยว่าหน้าหนาวก็เที่ยวทะเลได้เลย หรือสาวๆ คนไหนที่ไม่ได้โดนเทก็มาเปรี้ยวที่ทะเลได้เหมือนกันนะคะ รู้ยัง!! และที่แซ่บสุดเห็นจะเป็นหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวอิมพอร์ตชั่วคราวมาจากนานาชาติ ขยันเดินอวดหุ่นกันทั้งวี่ทั้งวัน มองกันเพลินตาไปเลยคร้า
เข้าเรื่องดีกว่า หลังจากแลนดิ้งลงสนามบินนานาชาติสมุยเป็นที่เรียบร้อย รถของทาง สันติบุรี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งทริปนี้แพรวจะพักที่นี้เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ทางรีสอร์ทจึงจัดรถมารับถึงสนามบินชูป้ายต้อนรับเห็นมาแต่ไกล ไม่เกิน 20 นาที รถเลี้ยวขวับเข้ารีสอร์ท โอ้โห สวยอลังฯ มาก มีกลิ่นอายความเป็นไทยทุกอณู ที่นี่เป็น รีสอร์ทระดับหกดาว แน่นอนว่าอยู่สบายๆ แบบเศรษฐีกระเป๋าหนัก แต่คุ้มค่าของการพักผ่อนริมทะเลอ่าวไทยในบรรยากาศเงียบสงบและบริการที่ดีจากรีสอร์ทและพนักงานทุกคน อาณาจักรแห่งความหรูหรานี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 58 ไร่ ริมหาดแม่น้ำ หนึ่งในหาดที่สวยงามที่สุดบนเกาะสมุย แวดล้อมด้วยสวนปาล์มและแมกไม้นานาพรรณสไตล์ทรอปิคอล มีแม้น้ำสายเล็กๆ ความยาว 300 เมตร พาดผ่านรีสอร์ท ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ เงียบสงบ และเป็นส่วนตัวสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง นี่แค่เกริ่นนะเริ่ดแค่ไหนคิดดูสิคะ
ส่วนใครสนใจที่ สันติบุรี สมุย มีห้องพักจำนวนทั้งสิ้น 77 หลัง แบ่งออกเป็นห้องพักแบบสวีทและวิลล่า ขนาดตั้งแต่ 55 – 285 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์ไทยแท้ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะสมัยสุโขทัย แต่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น ทีวีจอ LCD, เครื่องทำกาแฟ, มินิบาร์, ห้องน้ำแบบแยกส่วน, ห้องแต่งตัว (Walk-in Closet), อ่างล่างหน้า 2 อ่าง และอ่างอาบน้ำ (Bathtub) ขนาดใหญ่ในทุกๆ วิลล่า ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8,000 – 60,000 บาทต่อคืน แค่นั้นเองคร้า
ครั้งนี้ แพรวได้ห้อง เพรสสิเด้นซ์ รีทรีท 2 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำขนาด 195 ตารางเมตร
ทุกห้องจะมีเจ้าหมีสันติบุรี มานอนแอ้งแม้งต้อนรับอยู่บนเตียง
ภายในรีสอร์ท ยังมีบริการห้องอาหารถึง 5 ร้าน ได้แก่ Breakfast Room เสิร์ฟอาหารเช้าอาหารนานาชาติและอาหารไทยสไตล์พื้นเมือง Sala Thai ห้องอาหารไทยแท้รสชาติต้นตำรับ Pool Side Bar ให้บริการอาหารและของว่างอร่อยๆ ตลอดทั้งวัน ริมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใจกลางรีสอร์ท The Lounge ล้อบบี้เลาจน์ที่รอต้อนรับด้วยเครื่องดื่มแบบไทยๆ พร้อมบริการชายามบ่าย ทุกวันเวลา 16.00 น. และ The Beach House ร้านอาหารริมทะเลน้องใหม่ของอาณาจักรสันติบุรี ซึ่งแพรวมีนัดชิมอาหารรสเลิศที่นี่เย็นนี้
ริมหาดแม่น้ำหน้ารีสอร์ทค่อนข้างสงบ
ตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากนอนกลิ้งพักผ่อนจนหนำใจ ได้เวลาหากิจกรรมทำ ซึ่งภายในอาณาจักรสันติบุรี สมุย ยังพร้อมมอบความสุขสำหรับวันพักผ่อนด้วยกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลักซัวรี่ สปาขนาดใหญ่เพื่อการผ่อนคลายอย่างลงตัว ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัย คิดส์คลับ สนามเทนนิส สนามฟุตบอล และกิจกรรมริมทะเล อาทิ ล่องเรือใบ กิจกรรมที่ขึ้นชื่อของสันติบุรี พร้อมบริการ บีช บัตเลอร์ คอยอำนวยความสะดวกตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น ทาครีมกันแดด เช็ดแว่น และเสิร์ฟไอศกรีมริมหาดทุกวัน เวลาบ่าย 2 โมงอีกด้วย และกิจกรรมอีกมากมายที่ทางรีสอร์ทสลับสับเปลี่ยนให้ได้เพลิดเพลินทุกอาทิตย์ อย่างไม่รู้เบื่อ
แต่ถ้าสาวๆ อยากออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกภายในเกาะสมุยก็ยังมีบริการทัวร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซิตี้ทัวร์ หรือทัวร์เกาะต่างๆ และยังสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเกาะสมุยได้เพียงไม่กี่นาที อาทิต วัดพระใหญ่ หมู่บ้านชาวประมง และถนนคนเดินบ่อผุด
นี่ไง ที่แพรวบอกว่ามีนัดเย็นนี้ที่ The Beach House ห้องอาหารบรรยากาศริมทะเล ท่ามกลางสวนปาล์ม ที่สามารถมองเห็นวิวอ่าวไทยกว้างไกล และวิวพระอาทิตย์ตกสวยงามเกินคำบรรยายใดๆ แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนในร่ม ที่มีบาร์พร้อมด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิด และโซนเอาท์ดอร์ ที่ให้เท้าได้สัมผัสทรายนุ่มๆ สีขาว และอิ่มอร่อยกับอาหารไปพร้อมๆ กัน ตกแต่งสไตล์ทรอปิคอล สีฟ้าขาว ผนังเปิดโล่งทุกด้าน เพื่อความโปร่งสบาย และสามารถรับลมเย็นๆ จากทะเล โดดเด่นด้วยครัวแบบเปิด ให้ความรู้สึกเหมือนครัวในบ้านสุดหรู
ซิกเนเจอร์เมนูที่เป็นไฮไลท์ของ “เดอะ บีช เฮาส์” คือเมนูที่รังสรรค์โดย เชฟอาร์ต – ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ เซเลบริตี้เชฟผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมานานกว่า 20 ปี
เสิร์ฟความอร่อยถึงที่ด้วยเมนูหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารไทยฟิวชั่น อาหารนานาชาติ และซีฟู้ด ซึ่งสามารถเลือกวัตถุดิบสดๆ ได้เองจากหน้าร้าน (*** เมนูพิเศษจะเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน)
เมนูชุดแรกที่เชฟรังสรรค์ขึ้น Warm tiger prawn with Jerusalem Artichoke Puree fresh mango passion fruit refresh and champagne sauce กุ้งลายเสือกับอาร์ติโชคเยรูซาเล็มพูเร เสิร์ฟพร้อมมะม่วงสดๆ ราดด้วยซอสแชมเปญชุ่มฉ่ำ
Hokkaido scallop with roasted herb mushroom and wild mushroom veloute หอยเชลล์ฮอกไกโดสดๆ ย่างพอสุกกลิ่นหอมกรุ่นเสิร์ฟพร้อมเห็ดและซอสเนื้อเห็ดเข้มข้น
Butter poached lobster risotto grated parmesan cheese and truffle oil รีซอตโต้เหนียวนุ่มที่หุงกับซุปล็อบสเตอร์สูตรลับเฉพาะของเชฟ โรยด้วยพาร์มีซานชีสและซอสทรัฟเฟิล
Roasted rack of lamb with spring vegetable creamy mashed potato and red wine sauce เนื้อแกะนุ่มๆ ย่างสุกกำลังพอดี ทานคู่กับผักสด และมันบดรสชาติเข้มขัน ราดด้วยซอสไวน์แดง
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน Pavlova with berries and chocolate sauce พัฟโลวาหวานกลมกล่อมตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รี่หลากชนิดราดด้วยซอสช็อกโกแลต
สำหรับค่ำคืนแรก ปักหลักตรงโซนในร่มที่มีเคาน์เตอร์บาร์พร้อมด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิด และซิกเนเจอร์ค็อกเทลสไตล์ไทยๆ อย่าง ต้มข่าค็อกเทล, ต้มยำค็อกเทล ที่ผสมผสานเครื่องเทศแบบไทยๆ ลงไป ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ สดชื่น