account_circleสร้อยข้อมือชาร์ม Charm Bracelet อัญมณีสุดเลอค่า ที่เหล่าสตรีต่างใฝ่ฝันหา ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน วันนี้ “แพรวดอทคอม” พาคุณไปเปิดประวัติเครื่องประดับ และอัญมณีที่มีมานานกว่าหมื่นปี และเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ แทบทุกรุ่น
ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ “ชาร์ม” หรือ “จี้ประดับ” จะทำมาจากเปลือกหอย กระดูกสัตว์ หรือดินเหนียว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็น อัญมณี แร่หินและไม้ อย่างเช่น เครื่องประดับชาร์มทางแถบทวีปแอฟริกา ทำจากเปลือกหอย มีอายุราว 75,000 ปี ส่วนในประเทศเยอรมัน ก็มีชาร์มที่ทำจากงาของช้างแมมมอธแกะสลัก มีอายุราว 30,000 ปี
ความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ จะใช้ชาร์มเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ และความโชคดี ในยุคจักรวรรดิโรมันรุ่งเรือง ชาวคริสเตียนจะมีชาร์มเป็นรูปปลาตัวเล็กๆ ซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของพวกเขา เพื่อสำหรับพิสูจน์ตัวเองกับคริสเตียนคนอื่นๆ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นักวิชาการชาวยิว ก็จะเขียนข้อกฎหมายใส่ไว้ในชาร์ม ห้อยไว้รอบคอของพวกเขา โดยมีนัยยะว่าให้กฎหมายได้อยู่ใกล้หัวใจของพวกเขาตลอดเวลา แม้แต่อัศวินยุคกลาง ก็ยังสวมใส่ชาร์มเช่นกัน เพื่อเป็นเครื่องรางในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ในสนามรบ
ผู้นำเทรนด์ของการสวมชาร์มในยุโรป
สร้อยข้อมือชาร์ม (Charm Bracelet) ชิ้นแรกเริ่มคาดเดาว่ามีมาตั้งแต่ช่วง 400-600 ปีก่อนคริสตกาล สวมใส่โดยชาวอัสซีเรีย บาบิโลเนีย เปอร์เซียและฮิตไทต์ และเริ่มปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดจนเป็นกระแสที่นิยมอย่างแพร่หลาย คือในยุคของ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ ทรงรักการสวมสร้อยข้อมือชาร์ม และยังเป็นผู้ที่ริเริ่มแฟชั่นชาร์มในหมู่ชนชั้นสูงของยุโรป
หนึ่งในสร้อยข้อมือชาร์มเส้นโปรดของพระองค์ คือเส้นที่ เจ้าชายอัลเบิร์ต มอบให้เป็นของขวัญแด่พระองค์ในปี ค.ศ.1840 เป็นสายสร้อยข้อมือลักษณะเรียบ ประดับด้วยชาร์มรูปหัวใจ 9 ดวง เคลือบเป็นสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน
หัวใจแต่ละดวง เป็นตัวแทนของพระองค์ทั้งสอง พระราชโอรส และพระราชธิดา
สามารถเปิดออกได้ ด้านหนึ่งแกะสลักพระนามและวันประสูติ
อีกด้านหนึ่งใส่เส้นพระเกศาของแต่ละพระองค์
สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงมอบชาร์ม เป็นของขวัญแก่เชื้อพระวงศ์และพระสหายตามโอกาสพิเศษต่างๆ ทำให้สร้อยข้อมือชาร์มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากนั้นเป็นต้นมา
หลังจากเจ้าชายอัลเบิร์ตเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงทำชาร์มแกะสลัก โดยใส่ภาพวาดและเส้นผมของเจ้าชายอัลเบิร์ตไว้ในล็อคเก็ตชาร์ม เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ และระลึกถึงพระสวามีของพระองค์หลังจากสิ้นพระชนม์ ทำให้ชาร์มเป็นเครื่องประดับที่นิยมมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากที่ชาร์ม ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบตะวันตก
ก็ได้เริ่มแผ่ขยายความนิยมมายังฝั่งเอเชีย
โดยในปีพ.ศ. 2525 มร.เพียร์ อีนีโวลด์เซ่น ช่างทองชาวเดนมาร์กและภรรยา มีความปรารถนาที่จะนำเสนองานเครื่องประดับงานฝีมือคุณภาพสูง รูปแบบทันสมัย ในราคาที่สามารถครอบครองได้ให้แก่ผู้หญิง ความมุ่งมั่นดังกล่าวได้นำพากิจการเล็กๆ ของครอบครัวมาพัฒนาความทรงคุณค่าให้ส่องประกายสู่แบรนด์ “แพนดอร่า” แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีที่ผู้คนรักและชื่นชอบมากที่สุดในโลก
โดยในช่วงเริ่มต้นกิจการทั้งคู่มีโอกาสเดินทางมายังประเทศไทย ทำให้ได้พบกับแหล่งวัตถุดิบและอัญมณีมีค่าต่างๆ อีกทั้งยังได้พบกับช่างทำเครื่องประดับชาวไทยที่มีฝีมือและความเชี่ยวชาญสุดประณีต
โดยในปี พ.ศ. 2532 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเริ่มต้นผลิตเครื่องประดับในประเทศไทย และได้พัฒนาจนเป็นฐานการผลิตเครื่องประดับแพนดอร่า ด้วยกำลังช่างฝีมือจำนวนกว่า 12,000 คน ภายในนิคมอุตสาหกรรม อัญธานี กรุงเทพมหานคร
ในปี พ.ศ. 2543 แนวคิดการผลิตชาร์มที่ผู้หญิงทุกคนสามารถสร้างสรรค์เครื่องประดับในรูปแบบของตนเอง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของช่วงเวลาที่น่าจดจำเป็นรูปเป็นร่างขึ้นภายใต้ชื่อ “โมเม้นต์” (Moment) ซึ่งเป็นชื่อเริ่มแรกของคอลเลคชั่นสร้อยข้อมือของแพนดอร่า คอลเลคชั่นสร้อยข้อมือชาร์มสุดคลาสสิกนี้ได้แจ้งเกิดให้กับ แบรนด์แพนดอร่า ให้ได้รับความนิยมจนครองใจสาวๆ ทั่วโลก
เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม